เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการในหัวข้อ "ส่งเสริมการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมสุขภาพ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายของผู้บริหาร" โดยมีผู้บริหารจากทั้งภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วมประชุม จำนวนกว่า 50 ท่าน ณ ห้องประชุมโรงแรม เฮอริเทจ โฮเทลแอนด์คอนเวนชั่น จังหวัดเชียงราย
โดยมี รศ.ดร.สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.), รศ.ดร.ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุ รองผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์วิจัย, รศ.ดร.สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ (บพข.), รศ.ดร.วิรุฬห์ ศรีบริรักษ์ หัวหน้าโครงการความร่วมมือนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ ความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้และไทยในด้านระบบ แฟลตฟอร์มสำหรับการดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวมและต่อเนื่อง, ผศ.ดร.โกวิทย์ นามบุญมี จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผู้บริหารจากโรงพยาบาลในภาครัฐ โรงพยาบาลเครือเอกชน และบุคคลากรจาก กิน-อยู่-ดี แฟลตฟอร์ม
หลังจากพิธีเปิด ภายในการประชุมมีได้มีการยกหัวข้อเสวนาเรื่องการนำข้อมูลไปใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานและการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อต่อยอดการให้บริการทางสุขภาพ โดยมีนายแพทย์ คงศักดิ์ ชัยชนะ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นายแพทย์พฤฒ พันธุ์พฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด พร้อมสาธิตการใช้งานจริงของการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการคัดกรองสุขภาพฟัน ภาพถ่ายจอประสาทตา ภาพถ่ายผิวหนัง ที่มีความผิดปกติของคนไข้ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มีนายพีรเดช ลออธรรม ตำแหน่ง Software Architect Manager บริษัท เซนโกรท จำกัด ,นายจักรพงษ์ บุญใหญ่ ตำแหน่ง AI specialists บริษัท แวมสแตค จำกัด ,Mr.Jay Choi ตำแหน่ง Chief Operating Officer (COO) บริษัท QTT,Mr. Alex Park ตำแหน่ง Director Imaging Business Development Unit บริษัท VUNO ดำเนินการเสวนาโดย อาจารย์ อรนิช สาลีวงษ์ ที่ปรึกษาศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้
วัตถุประสงค์ของการจัดประชุมในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่สนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และเข้าถึงประชาชนให้มากยิ่งขึ้นและตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย โดยกำหนดให้โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศนำระบบดิจิทัลมาพัฒนาระบบบริการและการบริหารจัดการให้มีระบบปฏิบัติงานที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ประชาชนได้รับบริการที่รวดเร็ว มีคุณภาพ ปลอดภัย อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน รองรับการเป็น MOPH 4.0
ดังนั้นบุคลากรสาธารณสุขจึงจำเป็นต้องได้รับการอบรมเพิ่มทักษะในด้านต่าง ๆ ให้ทันต่อยุค สมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล เพื่อให้สามารถนำนโยบายดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการ ขับเคลื่อนและพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ในทุกด้านเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงบริหารของผู้บริหารหน่วยงาน และสอดรับกับนโยบายการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาระบบบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข และนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยบูรพาคณะทำงาน กิน-อยู่-ดีแพลตฟอร์ม ผู้แทนจากประเทศเกาหลีใต้และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
Facebook LIVE : Part 1 https://fb.watch/f3DTB52e1V/
Facebook LIVE : Part 2 https://fb.watch/f2J-RtiY_M/
ขอบคุณข้อมูลจาก :
Comments